สะพานไอน์สไตน์ โรเซน

Einstein Rosen Bridge
แม้ไอนสไตน์จะคิดว่าเรื่องของหลุมดำมันแปลกประหลาดมาก แต่เขาก็แสดงต่อไปว่ามันแปลกประหลาดกว่านั้นอีก คือในใจกลางหลุมดำมีรูหนอน ซึ่งนักคณิตศาสตร์เรียกว่า อวกาศที่เชื่อมต่อกันแบบพหุ นักฟิสิกส์เรียกว่ารูหนอน เนื่องจากมันก่อให้เกิดทางเชื่อมลัดระหว่างจุดสองจุด คล้ายรูที่หนอนขุดในดิน หรืออาจเรียกอีกอย่างว่าทางผ่านเชื่อมมิติ แต่ไม่ว่าจะเรียกอะไร อนาคตมันอาจเป็นหนทางสำหรับการเดินทางข้ามมิติ
ชาล ดอดสันหรือลิวอิส แครอลเป็นบุคคลแรกๆที่ขียนเรื่องนี้ให้คนทั่วๆไปได้อ่านกัน ในหนังสือเรื่อง อลิซ ท่องแดนกระจกเงา ดอดสันนั้นเป็นนักคณิตศาสตร์โดยอาชีพ เขาคุ้นเคยกับเรื่อง อวกาศที่เชื่อมต่อกันแบบพหุ เป็นอย่างดี มันคือ อวกาศซึ่งวงบ่วงที่อยู่ในอวกาศนั้นไม่สามารถหดเล็กลงจนกระทั่งกลายเป็นจุดเพียงจุดเดียวได้ โดยปกติแล้ว วงห่วงใดๆก็ตามสามารถที่จะหดเล็กลงเป็นจุดๆเดียวได้โดยไม่ยากอะไร แต่ถ้าทำการวิเคราะห์รูปทรงโดนัท เราสามารถวาง วงห่วงลงบนพื้นผิวของโดนัทนั้นโดยที่วงห่วงนั้นล้อมรอบรูของโดนัทได้ เมื่อเราค่อยๆย่อวงห่วงโดนัทนั้นให้เล็กลง เราจะพบว่ามันไม่สามารถย่อหดจนกระทั่งเป็นจุดได้ อย่างดีที่สุดคือย่อให้ล้อมรอบรูโดนัทเท่านั้น
นักคณิตศาสตร์รู้สึกยินดีกับความจริงที่ค้นพบว่าเขาสามารถค้นพบวัตถุไร้ประโยชน์ในการบรรยายอวกาศ ในปี 1935 ไอนสไตน์และศิษย์ นาธาน โรเซน ได้เสนอเรื่องรูหนอน พวกเขาพยายามใช้คำตอบเรื่องหลุมดำเป็นแบบจำลองสำหรับอนุภาคพื้นฐาน ไอนสไตน์ไม่ชอบแนวคิดที่ว่า แรงโน้มถ่วงของอนุภาคจะมีค่าเป็นอนันต์เมื่อเคลื่อนเข้าไปติดกับอนุภาคนั้น ซึ่งเป็นแนวคิดตั้งแต่สมัยนิวตัน ไอนสไตน์คิดว่า ภาวะเอกฐาน นี้ควรจะถูกกำจัดออกไป เนื่องจากความไม่สมเหตุสมผล

Nathan Rosen ไม่ใช่ นาธานโอมาน
ไอนสไตน์และโรเซนมีแนวคิดใหม่ขึ้นมาว่าน่าจะมองอนุภาคอิเล็กตรอนให้เหมือนหลุมดำด้วยวิธีนี้ เราสามารถนำทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปมาอธิบายความลึกลับของโลกควอนตัมในทฤษฎีสนามรวมได้ เขาได้เริ่มต้นจากคำตอบของสมการที่มีหลุมดำแบบมาตรฐาน ซึ่งมีลักษณะคล้ายแจกันขนาดใหญ่ ที่มีคอของแจกันยาวลึก จากนั้นตัดคอแจกันและเชื่อมมันเข้ากับคำตอบของหลุมดำอีกอันที่ถูกพลิกกลับหัว สำหรับไอนสไตน์แล้ว โครงสร้างที่แปลกประหลาดนี้ปราศจากภาวะเอกฐาน ณ จุดกำเนิดของหลุมดำ และอาจมีพฤติกรรมคล้ายๆอิเล็กตรอน
แนวคิดที่จะใช้หลุมดำมาเป็นตัวแทนของอิเล็กตรอนไม่ประสพความสำเร็จ ทว่าทุกวันนี้นักจักรวาลวิทยาคาดการณ์ว่า สะพานไอนสไตน์ โรเซนจะสามารถเป็นประตูเชื่อมระหว่างสองจักรวาลได้ เราสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระในจักรวาลหนึ่ง จนกระทั่งหล่นเข้าไปในหลุมดำ ซึ่งเราอาจถูกดูดทันทีผ่านรูหนอนไปโผล่ทะลุอีกด้านหนึ่งผ่านหลุมขาว

ที่มา : http://goo.gl/JZmjuk
: http://goo.gl/Avf2de

0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น