Welcome to my blog, enjoy reading.

วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Einstein Rosen Bridge


สะพานไอน์สไตน์ โรเซน 



Einstein Rosen Bridge

แม้ไอนสไตน์จะคิดว่าเรื่องของหลุมดำมันแปลกประหลาดมาก แต่เขาก็แสดงต่อไปว่ามันแปลกประหลาดกว่านั้นอีก คือในใจกลางหลุมดำมีรูหนอน ซึ่งนักคณิตศาสตร์เรียกว่า อวกาศที่เชื่อมต่อกันแบบพหุ นักฟิสิกส์เรียกว่ารูหนอน เนื่องจากมันก่อให้เกิดทางเชื่อมลัดระหว่างจุดสองจุด คล้ายรูที่หนอนขุดในดิน หรืออาจเรียกอีกอย่างว่าทางผ่านเชื่อมมิติ แต่ไม่ว่าจะเรียกอะไร อนาคตมันอาจเป็นหนทางสำหรับการเดินทางข้ามมิติ

ชาล ดอดสันหรือลิวอิส แครอลเป็นบุคคลแรกๆที่ขียนเรื่องนี้ให้คนทั่วๆไปได้อ่านกัน ในหนังสือเรื่อง อลิซ ท่องแดนกระจกเงา ดอดสันนั้นเป็นนักคณิตศาสตร์โดยอาชีพ เขาคุ้นเคยกับเรื่อง อวกาศที่เชื่อมต่อกันแบบพหุ เป็นอย่างดี มันคือ อวกาศซึ่งวงบ่วงที่อยู่ในอวกาศนั้นไม่สามารถหดเล็กลงจนกระทั่งกลายเป็นจุดเพียงจุดเดียวได้ โดยปกติแล้ว วงห่วงใดๆก็ตามสามารถที่จะหดเล็กลงเป็นจุดๆเดียวได้โดยไม่ยากอะไร แต่ถ้าทำการวิเคราะห์รูปทรงโดนัท เราสามารถวาง วงห่วงลงบนพื้นผิวของโดนัทนั้นโดยที่วงห่วงนั้นล้อมรอบรูของโดนัทได้ เมื่อเราค่อยๆย่อวงห่วงโดนัทนั้นให้เล็กลง เราจะพบว่ามันไม่สามารถย่อหดจนกระทั่งเป็นจุดได้ อย่างดีที่สุดคือย่อให้ล้อมรอบรูโดนัทเท่านั้น

นักคณิตศาสตร์รู้สึกยินดีกับความจริงที่ค้นพบว่าเขาสามารถค้นพบวัตถุไร้ประโยชน์ในการบรรยายอวกาศ ในปี 1935 ไอนสไตน์และศิษย์ นาธาน โรเซน ได้เสนอเรื่องรูหนอน พวกเขาพยายามใช้คำตอบเรื่องหลุมดำเป็นแบบจำลองสำหรับอนุภาคพื้นฐาน ไอนสไตน์ไม่ชอบแนวคิดที่ว่า แรงโน้มถ่วงของอนุภาคจะมีค่าเป็นอนันต์เมื่อเคลื่อนเข้าไปติดกับอนุภาคนั้น ซึ่งเป็นแนวคิดตั้งแต่สมัยนิวตัน ไอนสไตน์คิดว่า ภาวะเอกฐาน นี้ควรจะถูกกำจัดออกไป เนื่องจากความไม่สมเหตุสมผล


Nathan Rosen ไม่ใช่ นาธานโอมาน 

ไอนสไตน์และโรเซนมีแนวคิดใหม่ขึ้นมาว่าน่าจะมองอนุภาคอิเล็กตรอนให้เหมือนหลุมดำด้วยวิธีนี้ เราสามารถนำทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปมาอธิบายความลึกลับของโลกควอนตัมในทฤษฎีสนามรวมได้ เขาได้เริ่มต้นจากคำตอบของสมการที่มีหลุมดำแบบมาตรฐาน ซึ่งมีลักษณะคล้ายแจกันขนาดใหญ่ ที่มีคอของแจกันยาวลึก จากนั้นตัดคอแจกันและเชื่อมมันเข้ากับคำตอบของหลุมดำอีกอันที่ถูกพลิกกลับหัว สำหรับไอนสไตน์แล้ว โครงสร้างที่แปลกประหลาดนี้ปราศจากภาวะเอกฐาน ณ จุดกำเนิดของหลุมดำ และอาจมีพฤติกรรมคล้ายๆอิเล็กตรอน

แนวคิดที่จะใช้หลุมดำมาเป็นตัวแทนของอิเล็กตรอนไม่ประสพความสำเร็จ ทว่าทุกวันนี้นักจักรวาลวิทยาคาดการณ์ว่า สะพานไอนสไตน์ โรเซนจะสามารถเป็นประตูเชื่อมระหว่างสองจักรวาลได้ เราสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระในจักรวาลหนึ่ง จนกระทั่งหล่นเข้าไปในหลุมดำ ซึ่งเราอาจถูกดูดทันทีผ่านรูหนอนไปโผล่ทะลุอีกด้านหนึ่งผ่านหลุมขาว



ที่มา : http://goo.gl/JZmjuk
        : http://goo.gl/Avf2de
     

วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557

-หลุมยักษ์-


ดาวพุธมีหลุมอุกกาบาตจำนวนมากจนดูคล้ายดวงจันทร์ ภูมิลักษณ์ที่เด่นที่สุดบนดาวพุธ (เท่าที่สามารถถ่ายภาพได้) คือ แอ่งแคลอริส หลุมอุกกาบาตที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1,350 กิโลเมตร ผิวดาวพุธมีผาชันอยู่ทั่วไป ซึ่งก่อตัวขึ้นเมื่อหลายพันล้านปีที่แล้ว ขณะที่ใจกลางดาวพุธเย็นลงพร้อมกับหดตัว จนทำให้เปลือกดาวพุธย่นยับ พื้นที่ส่วนใหญ่ของดาวพุธปกคลุมด้วยที่ราบ 2 แบบที่มีอายุต่างกัน ที่ราบที่มีอายุน้อยจะมีหลุมอุกกาบาตหนาแน่นน้อยกว่า เป็นเพราะมีลาวาไหลมากลบหลุมอุกกาบาตที่เกิดก่อนหน้า



วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

รูหนอน(WormHole)...ความงดงามแห่งกาลเวลา



สวัสดีจ้า ชาวอิมตี้ทุกท่าน>_<'' วันนี้จะเอาเรื่องที่เราชอบที่สุดมาลงให้ทุกคนอ่านกันนะคะ
ซึ่งเราเชื่อว่าในเวปนี้ต้องมีคนที่ฉลาดเรื่องนี้กว่าเราแน่นอน
เพราะงั้นหากเจอจุดผิดอะไรในบทความนี้ก้อจิ้มและโพสท์บอกได้ทันทีนะเจ้าคะ
เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของเราเอาล่ะ ไปเริ่มเลยดีกว่าถึงการข้ามมิติและสถานที่




       ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนสำหรับผู้ที่เข้ามาในกระทู้นี้เพื่อพยายามหาอ่านเรื่องการข้ามเวลานะคะ
คือจขกท.เชื่อ(นักฟิสิกส์อันเป็นที่ชื่นชอบคนหนึ่ง)อย่างหมดใจ
ว่า"การข้ามเวลาเป็นไปไม่ได้"ถึงแม้ว่าทางทฤษฏีอาจจะทำได้ก็ตาม ใครที่อยากอ่านเรื่องนี้ก็ขอโทษจริงๆนะคะ
แต่ในเฉพาะหัวข้อจะอธิบายเรื่องการข้ามมิติเป็น
หลัก
       รูหนอนหรือ"WormHole"คือรูสองรูหรือท่อที่เชื่อมพื้นที่ในไฮเปอร์สเปซสองจุดเข้าด้วยกันเพื่อเคลื่อนที่
จากตำแหน่งหนึ่งไปยังอีกตำแหน่งหนึ่งในอวกาศ*ไฮเปอร์สเปซคือมิติสมมุติที่อยู่นอกเหนือจักรวาลปัจจุบันของเรา*ส่วนท่อที่เห็นในรูปเรียกว่าคอคอด(Throat)


    
 ในภาพที่เห็นคือแผ่นกาลอวกาศหรือก็คือเป็นการรวมตัวกันของเวลาและอวกาศตามทฤษฏีสัมพันธภาพ
ของไอสไตน์ (หรืออธิบายง่ายกว่านั้นคือ แผ่นๆที่โค้งนั่น
ก็คือเวลาไงเจ้าคะ เวลาดำเนินไปเรื่อยของมันในสภาพของอวกาศ ทีนี้ไอ่ท่อๆนั่นก็เชื่อม"ประวัติศาสตร์เวลา"
จุดหนึ่งเข้ากับ"ปัจจุบัน"อีกจุดหนึ่งไงคะ- FantaSia)
ซึ่งตามกฏของฟิสิกส์แล้ว เราจะสามารถสร้างรูหนอนได้ถึง"3"วิธีด้วยกัน โดยวิธีพวกนั้นได้แก่...
1.ดึงรูหนอนออกมาจากฟองควอนตัม
2.สร้างด้วยเส้นคู่คอสมิกความยาวเป็นอนันต์หมุนด้วยความเร็วใกล้แสง (ตามe=mcกำลัง2ไงเจ้าคะ)
3.สร้างอลูมิเนียมทรงกระบอกความยาวเป็นอนันต์(อีกแล้ว)หมุนด้วยความเร็วใกล้แสง
      ที่จริงจากวิธีทั้งหมดนี้ ถ้าถามว่าวิธีไหนที่เสถียรที่สุดในการสร้างรูหนอน คือ2กะ3เจ้าค่ะ
 แต่เนื่องด้วยเงื่อนไขมันเว่อร์เกินความเป็นไปได้ไปหน่อย(T^T)ดังนั้น
เลยคุยกันได้แค่ข้อ1ซึ่งมีความเป็นไปได้มากที่สุดเท่านั้นค่ะ

*ฟองควอนตัม(quantum Bubble)คือจุดที่กาลอวกาศเดือดและกลายสภาพเป็นฟองquantum โดยจะมีขนาดราวๆ10-44cm*ซึ่งตามทฤษฏีสัมพันธภาพของไอสไตน์บอกเราว่าฟองควอนตัมนั้นมีอยู่ทุกหนแห่ง
(หรือก็คือในทุกๆโมเลกุลเจ้าค่ะ-FantaSia) โดยรูหนอนมีเวลาเปิดสั้นมาก เพียง
10-40วินาที (ซึ่งแน่นอนว่าเข้าไปไม่ทันแน่ๆ) แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีหนทางอยู่
 วิธีที่จะทำให้มันอยู่ได้นานขึ้นคือการใส่"สารประหลาด(exotic matter)"ลงไป
ในWormHole โดยสารประหลาดที่ว่านี้ก็ประหลาดจริงๆคือมีสมบัติสสารเป็นลบ
(เป็นวัตถุด้านตรงกันข้ามของทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเห็นอยู่นี่ไงคะ ทุกอะตอมของ
ทุกสิ่งจะมีอิเล็กตรอนวิ่งวนอยู่ แต่สารประหลาดนี่จะมีโพรซิตรอนวิ่งวนแทนไงเจ้าคะ)
โดยจุดนี้จขกท.ก้อยังงงอยู่เพราะถ้าเปรียบสสารบวกที่เรามีอยู่ในปัจจุบันเป็น+1
และสสารลบเป็น-1แล้ว หากทั้งสองสิ่งวิ่งเข้ามาชนกันมันจะระเบิดเละไม่มีชิ้นดี (+1-1=0)
 ทั้งนี้แล้วเราจะเอามันมาจากไหนและจะหาวิธีใส่ลงไปในรูหนอนโดยทัน
เวลา40วิได้ยังงาย- - เรื่องนั้นช่างก่อน ต่อกันเลยนะเจ้าคะ เพราะรูหนอน(น่าจะ)มีสภาพเป็นลบ
หากใส่สสารลบลงไปมันจะขยายตัวออกพอทีจะให้เราสามารถเล็ดลอด
เข้าไปได้ (เพิ่มทั้งเวลาและขนาด)(รูหนอนคือหลุมดำรูปแบบหนึ่งซึ่งมีมวลมหาศาล)

      ว่ากันว่ายังมีทางอื่นเกี่ยวกับสสารประหลาดอยู่นะคะ คือสสารบวกก็สามารถใช้แทนได้
นั่นก็คือพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชั่นทั้งหมดของดวงอาทิตย์เป็นเวลา1ปีเจ้าค่ะ
(T^T)อ้อ! ในรูปคือรูปจำลองของexotic matterน้า
ทำไมรูหนอนจึงถูกเชื่อกันว่าข้ามเวลาได้เพราะตามกฏฟิสิกส์ปัจจุบันแล้วนั้นไม่สามารถนำมาใช้อธิบายรูหนอน เพราะมันอยู่ห่างไกลความเป็นจริงไปหน่อย
 เราไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่หลังWormHole นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่คิดว่าเราไม่สามารถกำหนด เวลา มิติ ตำแหน่งและสถานที่ด้านหลังรูหนอนได้เลย
จึงมีความเป็นไปได้ที่จะไปยังตำแหน่งกาลอวกาศอีกจุดได้ด้วย เพราะกาล
อวกาศคือจุดที่เวลาและอวกาศรวมกันเป็นทางเดียวแล้ว
อันตรายจากการข้ามมิติ(สำหรับผู้ที่คิดจะข้ามมิติอ่านหน่อยนะเจ้าคะ)1.เรายังไม่รู้รูปแบบการปรากฏตัว"ที่แน่นอน"ของมัน ทำไมเราเขียนอย่างนี้เด๋วจะอธิบายนะเจ้าคะ
2.ความต่างชนิดของสสาร เพราะรูหนอนนั้นเป็นสภาพลบและแน่นอนว่าเราเป็นสสารบวก...
กฏข้อเนี้ยแหละที่ฉีกการข้ามมิติเป็นชิ้นๆเลย...
3.พลังงานมหาศาลที่อยู่รอบๆรูหนอนอาจบดขยี้เราจนเละหากเราขับยานพลาดไปชนมันเข้า...
4.ข้อสุดท้าย การขับยานในรูหนอนนั้นต้องระวังเป็นพิเศษ หากเข้าไป90องศาตอนขับในนั้นก็ต้อง90องศา
 ห้ามเฉียงแม้แต่องศาเดียว เพราะไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้นถ้าเราขับ
ชนกำแพงwormhole...


ที่มา. http://goo.gl/z0sIqn